25,677 view
th_ppnew

งานหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

 

ข้อมูลที่ต้องทราบก่อนการทำหนังสือเดินทางไทย

1. หนังสือเดินทาง (E-Passport) คือหนังสือเดินทางที่มีการบันทึกข้อมูลชีวมาตร (Biometric Data) ได้แก่ รูปใบหน้า ม่านตา และลายนิ้วมือไว้ใน Contactless Integrated Circuit ซึ่งฝังอยู่ในหนังสือเดินทาง และมีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อการตรวจสอบความถูกต้องที่แท้จริงของหนังสือเดินทาง ดังนั้น ผู้ร้องต้องเข้ามาทำหนังสือเดินทางด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ 10 นิ้ว ถ่ายรูปใหม่ และสแกนม่านตาที่สถานกงสุลใหญ่ฯ

2. หนังสือเดินทางมีความสำคัญยิ่ง ควรเก็บรักษาให้ดี ไม่ควรทำหายเพราะจะเกิดความยุ่งยาก เนื่องจากผู้ที่ทำหนังสือเดินทางสูญหายจะต้องดำเนินการแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องถิ่นของประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน (สูญหายในพื้นที่ใด จะต้องแจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่นั้น) โดยผู้ร้องจะต้องนำใบแจ้งความจากสถานีตำรวจมาเป็นหลักฐานเพื่อขอทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ หรือเอกสารเดินทางฉุกเฉิน 

3. ควรทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่เมื่อหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันมีอายุการใช้งานเหลือน้อยกว่า 1 ปี และไม่ควรปล่อยให้หมดอายุก่อนทำเล่มใหม่

4. การแก้ไขข้อมูลส่วนตัวในหนังสือเดินทาง หนังสือเดินทางจะต้องตรงกับข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชน ดังนั้น หากผู้ร้องที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศต้องการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลใหม่เนื่องจากการสมรสหรือหย่า จะต้องทำเรื่องมอบอำนาจส่งกลับไปแก้ไขในทะเบียนราษฏร (เขตหรืออำเภอ) ที่ประเทศไทย และนำหลักฐานการแก้ไขมาดำเนินการทำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ ก่อนที่จะขอทำหนังสือเดินทาง

5. ผู้ที่เกิดในต่างประเทศจะมีสิทธิขอหนังสือเดินทางได้ 1 ครั้ง (อายุ 5 ปีเท่านั้น) เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย และควรนำชื่อเข้าในทะเบียนบ้านไทยและทำบัตรประจำตัวประชาชนที่ไทยให้เรียบร้อย ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ออกหนังสือเดินทางเล่มที่ 2 ให้ จนกว่าจะมีชื่อในทะเบียนบ้านไทยและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อย่างไรก็ดี ในกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทย สถานกงสุลใหญ่ฯ สามารถออกเอกสารเดินทางฉุกเฉินหรือ Emergency Travel Document (ETD) ให้ท่านเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเดินทางกลับประเทศไทยได้

6. ในการทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงที่ยังมีอายุการใช้งานอยู่ ในกรณีที่บัตรประจำตัวประชาชนของท่านหมดอายุ สูญหาย หรือมีการแก้ไขข้อมูลบนบัตร ท่านสามารถขอทำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ได้ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เช่นกัน โดยสามารถรอรับบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่ได้เลย

      ทั้งนี้ ท่านจะต้องจองคิวทำบัตรประจำตัวประชาชนแยกต่างหากจากการจองคิวทำหนังสือเดินทาง ดังนั้น เพื่อความสะดวกของท่าน ขอให้จองคิวทำบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทางในวันเเละช่วงเวลาเดียวกัน ในกรณีที่ไม่สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ท่านสามารถใช้สำเนาของบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุแทนบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงได้ (อ่านข้อมูลการทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ที่นี่)

7. สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะให้บริการงานด้านกงสุลทุกประเภทสำหรับผู้ที่จองคิวล่วงหน้าเท่านั้น ยกเว้นผู้ที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี ไม่ต้องลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้า

8. ระยะเวลาการรอรับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ขึ้นอยู่กับประเภทการรับเล่ม หากผู้ร้องเดินทางมารับเล่มด้วยตนเอง ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากรับเล่มทางไปรษณีย์ ใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์

 

ข้อแนะนำเรื่องการเตรียมตัวก่อนมาทำหนังสือเดินทาง

  • ใบหน้า : เนื่องจากจะต้องมาถ่ายรูปใหม่ที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งการถ่ายรูปนั้นจะต้องให้ตรงกับมาตรฐานของ ICAO ซึ่งเป็นมาตรฐานข้อกำหนดในการถ่ายภาพติดบนหนังสือเดินทางทั่วโลก ซึ่งใบหน้าจะต้องได้ขนาดมาตรฐานชัดเจนตั้งแต่หน้าผากถึงปลายคางและปลายผมตรงติ่งหูด้านซ้ายไปถึงด้านขวา จะต้องไม่มีอะไรมาบดบังเพื่อให้ภาพถ่ายผิดเพี้ยน
  • การแต่งหน้า : ไม่ควรจะแต่งหน้าเข้มจนเกินไป ควรใช้โทนสีธรรมชาติ (เนื่องจากรูปที่ปรากฏอยู่บนหนังสือเดินทางจะเป็นรูปสีขาว-ดำ)
  • การสแกนม่านตา : ปัจจุบันมีการเก็บม่านตาเพื่อบันทึกลงในชิปข้อมูลที่อยู่ในเล่มหนังสือเดินทาง จึงไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ (อนุญาตให้สำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์สายตาแบบใสเท่านั้น) และผู้ที่ใส่แว่นสายตาจะต้องถอดแว่นสายตาขณะถ่ายรูป
  • พิมพ์ลายนิ้วมือ : หนังสือเดินทางจะต้องเก็บลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว โดยที่อุปกรณ์พิมพ์ลายนิ้วมือจะอ่านจากความชื้น ดังนั้น ผู้ที่จะเดินทางมาทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ควรจะต้องทาครีมบำรุงผิวที่บริเวณมือสักเล็กน้อยเพื่อสะดวกกับการพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว
  • การแต่งกาย : ควรใส่เสื้อผ้าที่เป็นสีต่าง ๆ ไม่ควรใส่เสื้อสีขาวเนื่องจากฉากด้านหลังเป็นสีขาว ไม่ควรใส่เครื่องประดับและต่างหู สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่ต้องสวมใส่ผ้าคลุมผม (ฮิญาบ) ควรเป็นผ้าสีเดียวไม่มีลาย เช่น สีดำล้วน เป็นต้น
  •  

เอกสารประกอบการขอทำหนังสือเดินทาง (บุคคลทั่วไปอายุ 20 ปีขึ้นไป)

  1. บัตรประจำตัวประชาชนไทยที่ยังไม่หมดอายุใช้งาน (กรณีบัตรหมดอายุ จะต้องดำเนินการจองคิวขอทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ในวันเดียวกันกับวันที่จองคิวทำหนังสือเดินทาง)
  2. หนังสือเดินทางเล่มเดิม
  3. คำร้องขอทำหนังสือเดินทางจำนวน 1 ชุด (ดาวน์โหลด)   
  4. กรณีหนังสือเดินทางเล่มเดิมสูญหาย ต้องนำใบแจ้งความจากสถานีตำรวจท้องถิ่นมาแสดง 

 

ค่าธรรมเนียม (รับเฉพาะธนบัตรเท่านั้น)

  • หนังสือเดินทางอายุ 5 ปี ค่าธรรมเนียม 37 ดอลลาร์สหรัฐ
  • หนังสือเดินทางอายุ 10 ปี ค่าธรรมเนียม 55 ดอลลาร์สหรัฐ

การจองคิวเข้ารับบริการ

 

  • เจ้าหน้าที่ขอสงวนสิทธิ์จัดคิวบริการและให้บริการตามลำดับดังต่อไปนี้


1. ผู้ที่จองคิวล่วงหน้าและพักอาศัยอยู่ใน 10 รัฐ (คอนเนทิคัต เมน แมสซาชูเซตส์ นิวแฮมป์เชอร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ และเวอร์มอนต์)
2. ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี (ไม่ได้จองคิว) แต่พักอาศัยอยู่ใน 10 รัฐข้างต้น

 
การรับเล่มหนังสือเดินทาง
  1. การรับเล่มหนังสือเดินทางด้วยตนเอง ต้องนำใบรับเล่มมาแสดง ต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
  2. การส่งหนังสือเดินทางกลับทางไปรษณีย์

 

 

  • เนื่องจาก metered stamp จะระบุวันที่จัดส่ง ซึ่งบางทีหนังสือเดินทางเล่มใหม่ของท่านอาจไม่สามารถจัดส่งภายในวันและเวลาที่ metered stamp ระบุไว้ กรณีท่านและครอบครัวมาทำหนังสือเดินทางพร้อมกันหลายคน ขอให้เตรียม 1 ซองต่อ 1 คน

** ซองที่ใช้จะต้องเป็น USPS Priority Mail Express ขนาด 9-1/2"(L) x 12-1/2"(W) เท่านั้น **

(สถานกงสุลใหญ่ฯ จะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากเกิดการสูญหาย) 

กรอกชื่อ-ที่อยู่ผู้ส่ง
Royal Thai Consulate-General NY
351 East 52nd Street,
New York, NY 10022

  • กรอกชื่อและที่อยู่ของท่าน (ผู้รับ) ให้ชัดเจน

 

  • สำหรับนักเรียนหรือข้าราชการที่ต้องการเบิกค่าแสตมป์ในการจัดส่งทางไปรษณีย์ ให้จัดเตรียมซองติดแสตมป์มาให้เรียบร้อย โดยนำใบเสร็จจากการซื้อแสตมป์ที่ Post Office ไปเบิกค่าจัดส่ง

 

  • หากท่านทราบหมายเลข tracking number ของท่าน ท่านสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ที่ www.usps.com
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------------

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

งานประชาสัมพันธ์

โทร 212-754-1770 ext. 300 และ 301

(ในวันและเวลาทำการของสถานกงสุลใหญ่ฯ)

หรือฝากข้อความที่ Facebook หรือ e-mail : [email protected]